🌈 วันนี้เรามีบทความมาแชร์กับคุณพ่อคุณแม่เกี่ยวกับวิธีการชมเชยลูกค่ะ
⭐️ 1. พยายามพูดชมเชยแบบเฉพาะเจาะจง
หลักสำคัญของการชมเชยคือการเฉพาะเจาะจง อย่าชมเชยลูกแค่ว่า “เก่งมากค่ะ” แล้วจบเพียงเท่านั้น เพราะจะไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเด็กเพิ่มขึ้น เนื่องจากเด็กจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำไปแล้วในจุดไหนคือสิ่งที่ดี ตัวอย่างเช่น เวลาลูกช่วยจัดห้องเป็นระเบียบ ควรจะชมลูกไปในแนวทางที่ว่า “ขอบคุณที่ลูกช่วยแม่จัดห้องนะคะ แม่ชอบเวลาลูกไปช่วยเรียงรองเท้าด้วย เพราะว่าตอนเช้าก่อนออกจากบ้านเราก็หยิบรองเท้ามาใส่ได้ง่ายเลยนะคะ”
⭐️ 2. ชมเชยที่ความพยายามอย่าชมลูกแค่ที่ความสำเร็จ
เป็นเรื่องธรรมดาประสาพ่อแม่ที่เราอยากชมเวลาที่ลูกทำอะไรสำเร็จ แต่การที่คุณพ่อคุณแม่ไปโฟกัสเรื่องผลลัพธ์ จะเป็นการนำไปสู่การหมดกำลังใจได้ง่ายในตอนเขาโตขึ้น เพราะในชีวิตจริงไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำอะไรสำเร็จตลอดไป เพราะบางครั้งก็ต้องมีการล้มเหลวบ้าง แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ชมในความพยายามของลูก เราสามารถชมได้ตั้งแต่ความสำเร็จยังไม่เกิดเลย ทำให้ลูกรับรู้ว่าเราเชื่อในตัวเขา เช่น อย่าชมแค่ว่า สอบได้ที่หนึ่งอีกแล้ว ควรชมเชยว่าลูกมีความพยายามในการอ่านหนังสือเตรียมสอบเป็นอย่างมาก
⭐️ 3. อธิบายตามสิ่งที่เห็น
เวลาชมแล้วเราอธิบายรายละเอียด จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกดีใจและมั่นใจว่าคุณพ่อคุณแม่คอยดูเขาอยู่นะคะ ทำให้ลูกเกิดความอุ่นใจ และเกิดแนวโน้มว่าลูกจะทำพฤติกรรมดีซ้ำอีก ตัวอย่างเช่น เวลาลูกช่วยเหลือเพื่อน ไม่ควรชมเชยสั้นๆ แค่ “ใจดีจัง” แต่ควรเปลี่ยนเป็น “ดีจังเวลาลูกไปปลอบเพื่อนกับช่วยเพื่อนให้ลุกขึ้นตอนเพื่อนล้ม เพื่อนน่าจะตกใจอยู่พอลูกไปช่วย เพื่อนก็น่าจะรู้สึกดีขึ้นนะคะ”
⭐️ 4. ไม่เน้นชมเชยเรื่องฉลาด สติปัญญา
แต่เราควรชมเชยที่การกระทำของลูก การที่ไปชมจุดที่เป็นลักษณะที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อาจจะส่งผลในทางย้อนกลับได้ ตัวอย่างเช่น การไปชมว่าลูกฉลาด เด็กบางคนอาจจะคิดว่า เราฉลาดอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องพัฒนาตัวเองอะไร หรือในอนาคตบางครั้งที่เขาอาจจะได้คะแนนไม่ดีอย่างที่คิด ลูกอาจจะคิดไปได้ว่าเขาไม่ฉลาดเมื่อก่อนเสียแล้ว เราจึงควรชื่นชมลูกเช่น “โอ้โห คะแนนรอบนี้ออกมาดีมากเลย หนูฝึกทำแบบฝึกหัดก่อนไปสอบเยอะแยะเลยนะ มีความพยายามมากค่ะ”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.mother.ly